อยากนอน แต่นอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) คืออะไร นอนไม่หลับ ทำไงดี? โดยปกติ มนุษย์จะมีชั่วโมงการนอนที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ apratmenttoyou โดยจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมในการนอนหลับสำหรับวัยผู้ใหญ่ ได้แก่ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสมากพอสำหรับการนอน แต่หลายคนกลับมีอาการนอนไม่หลับ หลับยาก หลับ ๆ ตื่น ๆ นอนไม่ค่อยหลับ
ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ อาการดังกล่าวนี้อาจเข้าข่าย ‘โรคนอนไม่หลับ’ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้คนทุกเพศ ทุกวัย แต่มักพบมากในผู้หญิงและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านร่างกายหรือจิตใจ ผู้ป่วยควรหาวิธีนอนให้หลับด้วยการปรับพฤติกรรมหรือปรึกษาแพทย์หากมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังก่อนจะสายเกินไปจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและการทำงานได้
อาการของโรคนอนไม่หลับ อาการของโรคนอนไม่หลับพบได้หลายรูปแบบ เช่น มีอาการนอนไม่หลับ นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่สนิท นอนหลับยาก ใช้เวลานอนมากกว่า 20 นาทีถึงจะหลับได้ หลับแล้วตื่นบ่อย ตื่นกลางดึก ตื่นแล้วไม่สามารถนอนหลับได้อีก ง่วงนอนในเวลากลางวัน แต่นอนไม่หลับในเวลากลางคืน เป็นต้น
ประเภทของโรคนอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้ หลายประเภทตามเกณฑ์ต่าง ๆ แต่หากแบ่งตามลักษณะช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ จะแบ่งได้ดังนี้
- หลับยาก (Initial Insomnia) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยาก ต้องใช้เวลานอนนานกว่าจะเริ่มหลับ โดยภาวะดังกล่าวนี้อาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล
- หลับแล้วตื่นและไม่สามารถหลับตามที่ร่างกายต้องการได้อีก (Maintenance Insomnia) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาว มีการตื่นกลางดึกบ่อย ภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางร่างกาย เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น
- ตื่นเร็วและหลับต่อไม่ได้ (Terminal Insomnia) คือ อยากนอน แต่นอนไม่หลับ ภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น อาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า
ในผู้ป่วยบางรายอาจพบว่ามีอาการนอนไม่หลับหลายรูปแบบผสมกันได้ สาเหตุของโรคนอนไม่หลับ
สาเหตุของโรคนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น
- ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อุณหภูมิสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป แสงสว่างมากเกินไป เสียงรบกวนจากภายนอก การนอนต่างที่ที่ส่งผลทำให้นอนหลับยาก
- ปัจจัยด้านร่างกายหรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เช่น มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) โรคกรดไหลย้อน มีอาการปวดท้อง ปวดตามเนื้อตัว โรคเกี่ยวกับการนอนหลับ อาการไอ ฯลฯ
- ปัจจัยด้านจิตใจ เช่น ความเครียด อาการวิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ การได้รับแรงกดดัน มีอาการซึมเศร้า ท้อแท้ หมดกำลังใจ
- ปัจจัยที่เกิดจากพฤติกรรม เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคคาเฟอีน การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้นอนหลับยาก ท้องว่าง ทำให้เกิดหิวขึ้นมาในช่วงดึก หรืออิ่มมากเกินไป ทำให้มีอาการแน่นท้องกลางดึก จนนอนไม่หลับ อุปนิสัยการนอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การเล่นเกมหรือโทรศัพท์มือถือก่อนนอน รวมไปถึงหน้าที่การงานบางประเภทที่ต้องมีการเข้ากะ ทำให้ต้องเปลี่ยนเวลาการนอนบ่อย ๆ
ผลเสียที่เกิดจากโรคนอนไม่หลับ อยากนอน แต่นอนไม่หลับ
หลายคนอาจคิดว่า อยากนอน แต่นอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับ เป็นโรคที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว และทำให้อ่อนเพลียเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วโรคนอนไม่หลับสามารถส่งผลด้าน เสียทั้งต่อสุขภาพจิต และสุขภาพกาย ดังนี้
- เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หงุดหงิด
- ระบบความจำและการเรียนรู้เสื่อมถอย
- สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
- น้ำหนักตัวเพิ่ม เป็นโรคอ้วน
- สูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน ขาดสมาธิ
- มีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิด กระสับกระส่าย ก้าวร้าว
- เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคสมองเสื่อม อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ
- หลับใน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติ งานหรือขับขี่ยานพาหนะ
วิธีรักษาโรคนอนไม่หลับ นอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่หลับ ทำไงดี? ในการรักษาโรคนอนไม่หลับจะใช้แนวทางการรักษา 2 วิธี ได้แก่ การดูแลรักษาโดยแพทย์หรือการใช้ยา และการดูแลรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา
- การรักษาโดยแพทย์หรือการใช้ยา
การรักษาโรคนอนไม่หลับ โดยวิธีทางการแพทย์จะแบ่งออกเป็น WBET69 การรักษาด้วยการใช้ยา ซึ่งเป็นยานอนหลับที่ใช้เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ภายในร่างกาย มีบทบาทช่วยให้เกิดการนอนหลับ หรือยารักษาอาการทางจิตที่ช่วยผ่อนคลายและลดอาการวิตกกังวล ทำให้นอนหลับง่ายและหลับสนิท และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการรักษาเพื่อให้เกิดภาวะผ่อนคลายร่วมกับการใช้วิธีทำให้นอนหลับ เช่น ดนตรีบำบัด วารีบำบัด การบำบัดเพื่อปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม
- การดูแลรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา
แนวทางนี้ ได้แก่ การปรับเปลี่ยนปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม และสุขลักษณะการนอนที่มีผล ต่อการนอนไม่หลับ เช่น อุณหภูมิ แสงสว่าง เสียงรบกวน เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้วิธีทำให้นอนหลับ เช่น การทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลให้เกิดความเครียดหรือทำให้รู้สึกตื่นตัว เช่น การเล่นเกม การเล่นโทรศัพท์มือถือ การงีบหลับในตอนกลางวัน งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการนอน ฝึกเข้านอนให้เป็นเวลา เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ป่วยนอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนไม่หลับติดต่อกันมากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลามากกว่า 1-3 เดือน จนเริ่มส่งผลต่ออารมณ์ สมาธิ ความจำ เกิดภาวะเครียด กดดัน รู้สึกเป็นกังวล รบกวนจิตใจ มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และประสิทธิภาพในการทำงาน ในกรณีนี้ผู้ป่วยควรปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลใจ จนเกิดอาการนอนไม่ค่อยหลับ ร่วมกับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อค้นหาสาเหตุของอาการนอนไม่หลับ
ใส่ความเห็น