ห้องลับ ไมเคิลแองเจโล เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ในปี ค.ศ. 1975 เปาโล ดัล ปอจเจตโต (Paolo Dal Poggetto) ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์โบสถ์เมดีชี (Medici Chapels museum) ได้ค้นพบสมบัติจากยุคเรอเนสซองส์เข้าโดยบังเอิญ
ในขณะที่ดัล ปอจเจตโตและเพื่อนร่วมงาน กำลังมองหาพื้นที่เพื่อสร้างทางออกแห่งใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวอยู่นั้น พวกเขาได้ค้นพบประตูที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ตู้เก็บเสื้อผ้า ใกล้กับห้องเก็บเครื่องพิธี (New Sacristy) ซึ่งถูกใช้เป็นห้องสุสาน ของผู้ปกครองตระกูลเมดีชี ใต้ประตูลับบานนั้นมีบันไดหินแคบ ๆ ที่นำไปสู่ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความยาว 10 เมตร กว้าง 3 เมตร และสูง 2.4 เมตร เมื่อเข้าไปครั้งแรก ห้องนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงที่เก็บถ่านหินเท่านั้น ทว่าเมื่อสำรวจตามกำแพงของห้อง ดัล ปอจเจตโตและเพื่อนร่วมงานกลับได้พบกับภาพร่างต่าง ๆ ทะเลหน้าฝน ที่พวกเขาเชื่อกันว่าเป็นร่องรอยที่ มีเกลันเจโล (Michelangelo) หรือที่รู้จักในชื่อ ไมเคิลแองเจโล ศิลปินชื่อดังแห่งยุคเรอเนสซองส์ ขีดเขียนขึ้นด้วยถ่านและชอล์ก
เมื่อปี 2017 เปาโล วูดส์ (Paolo Woods) ช่างภาพของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้รับโอกาสจากโมนิกา บีเอ็ตตี (Monica Bietti) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์โบสถ์เมดีชีในขณะนั้น ในการเข้าไปเก็บภาพสำคัญที่ถูกวาดไว้ ตามผนังของห้องลับออกมาให้สาธารณชนได้รับชม
เบื้องหลัง ของผู้ที่ทำให้ภาพวาดบนกำแพง ของมีเกลันเจโลยังไม่จางหายไป ตามกาลเวลาคือ ดัล ปอจเจตโต เมื่อค้นพบสถานที่ลับใต้ดินแห่งนี้เป็นครั้งแรก เขาเข้าไปสำรวจห้องอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้นกับสิ่งที่อยู่ภายใน และด้วยความที่เมืองฟลอเรนซ์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับศิลปินคนสำคัญ ในยุคเรอเนสซองส์ ดัล ปอจเจตโตจึงเกิดความคิดขึ้นว่า บางทีใต้ผนังที่ถูกปูนฉาบ ไว้อาจจะมีอะไรบางอย่างที่มีความสำคัญซ่อนเอาไว้
บีเอ็ตตีบอกกับทางเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกไว้ว่า “ยิ่งเรามีสิ่งก่อสร้างหรืออาคารที่เก่าแก่มาก ๆ เรายิ่งต้องให้ความสนใจกับมัน” และเนื่องจากภาพร่างที่พบตามผนังในห้องลับไม่มีทั้งชื่อผู้วาดและวันที่ระบุไว้ ดังนั้น คำถามสองข้อที่เป็นที่ถกเถียงหลังสถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบคือ เจ้าของผลงานเหล่าคือใคร และภาพเหล่านั้นถูกวาดขึ้นเมื่อไร
แม้ในอดีต ห้องลับแห่งนี้จะถูกจำกัดการเข้าถึง แต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2023 ที่ผ่านมา ทางพิพิธภัณฑ์โบสถ์เมดีชีได้ทดลองเปิดห้องใต้ดินแห่งนี้ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแล้ว สำหรับการเข้าชมนั้นจะมีการเก็บค่าเข้าชม 20 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 755 บาทต่อคน ในแต่ละรอบจะมีการจำกัดผู้เข้าชมเพียงครั้งละ 4 คน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของพิพิธภัณฑ์ลงไปด้วย และอนุญาตให้อยู่ในห้องได้สูงสุดเพียงครั้งละ 15 นาที
ศิลปินที่ต้องหลบซ่อน ห้องลับ ไมเคิลแองเจโล
ภายใต้การกำกับดูแลของดัล ปอจเจตโต ผู้เชี่ยวชาญได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์ไปกับการใช้มีดผ่าตัดค่อย ๆ เฉือนเอาปูนปลาสเตอร์ที่ฉาบผนังเอาไว้ออกอย่างระมัดระวัง เมื่อชั้นปูนถูกเฉือนออกจนหมดแล้ว นอกจากภาพวาดหลายสิบภาพ
จะปรากฏให้เห็น ทีมผู้เชี่ยวชาญยังพบว่าภาพร่างบนผนังจำนวนไม่น้อยมีลักษณะคล้ายคลึงกับผลงานอันยิ่งใหญ่ของมีเกลันเจโล ยกตัวอย่างเช่น รูปปั้นหินอ่อนรูปมนุษย์ที่ประดับอยู่ตามโลงศพของจูเลียโน เดอ เมดิชี (Giuliano de’ Medici)
ในห้องสุสานเหนือห้องลับแห่งนี้ ซึ่งมีเกลันเจโลออกเป็นผู้ออกแบบเอง ดัล ปอจเจตโตสรุปว่า เมื่อปี 1530 มีเกลันเจโล หรือศิลปินที่อยู่เบื้องหลังภาพบนผนังเซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินแห่งนี้เป็นระยะเวลาราว ๆ สองเดือน เพื่อหลบหนีจากคน
ของตระกูลเมดิชี สาเหตุที่ทำให้ศิลปินชื่อดังแห่งยุค ต้องหลบหนีเช่นนี้ก็เป็นเพราะเขาตัดสินใจทรยศเมดิชี และเข้าร่วมกับชาวเมืองฟลอเรนซ์ในการลุกฮือขึ้น บาคาร่า จ่ายจริง ต่อต้านการปกครองของคนจากตระกูลนี้จนทำให้ผู้ปกครอง
เมืองตระกูลเมดีชีถูกเนรเทศในปี 1527 ทว่า ไม่กี่ปีต่อมา ตระกูลเมดีชีก็สามารถกลับเข้าสู่อำนาจได้อีกครั้ง ชีวิตของมีเกลันเจโลในวัย 55 ปีจึงตกอยู่ในอันตาย บีเอ็ตตีกล่าวว่า “เป็นธรรมดาที่มีเกลันเจโลจะรู้สึกหวาดกลัวและเลือกที่จะ
หนีไปหลบภัยในห้องลับ” บีเอ็ตตีเสริมว่า เธอคิดว่ามีเกลันเจโลใช้เวลาอันโดดเดี่ยวสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่าไปกับการพิจารณาชีวิตและงานศิลปะของเขา ภาพวาดบนผนังแสดงให้เห็นถึงผลงานหลาย ๆ ชิ้นที่เขาตั้งใจจะทำให้เสร็จ และยังแสดงให้เห็นผลงานชิ้นเอกชิ้นต่าง ๆ ที่เขาสรรค์สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น รายละเอียดจากรูปปั้นเดวิดซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1504 และรูปคนจากภาพจิตรกรรมในโบสถ์ซิสทีน (Sistine Chapel) ซึ่งวาดเสร็จสมบูรณ์ในปี 1512 “เขาคืออัจฉริยะ เขาไปทำอะไรที่นั่นบ้าง แค่วาดภาพ” บีเอ็ตตีกล่าวปิดท้ายด้วยความชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของมีเกลันเจโล
ใส่ความเห็น